อัพเดทล่าสุด: 11 ก.ย. 2024
1702 ผู้เข้าชม
Toleranceคืออะไร
ในอุปกรณ์ทางเครื่องกลหมายถึงช่วงความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ในขนาดของชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบที่ถูกผลิตขึ้นตามแบบแปลนหรือข้อกำหนด ความคลาดเคลื่อนนี้เป็นการกำหนดความแตกต่างที่อนุญาตให้เกิดขึ้นระหว่างขนาดจริงของชิ้นส่วนและขนาดที่ออกแบบไว้ ซึ่งมีผลต่อการทำงานและความพอดีของชิ้นส่วน
คุณสมบัติของ Tolerance- ความแม่นยำ (Accuracy): Tolerance ช่วยกำหนดขอบเขตความแม่นยำในการผลิต ทำให้สามารถระบุได้ว่าชิ้นส่วนสามารถเบี่ยงเบนจากขนาดที่ออกแบบไว้ได้เพียงใด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องจักร
- ความพอดี (Fit): Tolerance มีผลต่อความพอดีของชิ้นส่วน เช่น การพอดีระหว่างเพลาหรือแกนกับรู หาก tolerance กำหนดมากเกินไป อาจเกิดช่องว่างมากเกินหรือชิ้นส่วนอาจแน่นเกินไปจนไม่สามารถประกอบได้
- การควบคุมคุณภาพ (Quality Control): ใช้ tolerance เพื่อระบุขอบเขตการผลิตที่ยอมรับได้ ทำให้สามารถตรวจสอบชิ้นส่วนที่ผลิตว่าผ่านมาตรฐานหรือไม่
- อายุการใช้งาน (Durability): Tolerance ช่วยควบคุมความแน่นและความหลวมของชิ้นส่วน ซึ่งจะส่งผลต่อการเสียดสีและการสึกหรอของอุปกรณ์ ทำให้สามารถควบคุมอายุการใช้งานของชิ้นส่วนได้
การใช้งานของ Tolerance- ในอุปกรณ์หมุน (Rotating Equipment): การประกอบชิ้นส่วนที่หมุนเช่น แบริ่ง เพลา หรือเฟือง Tolerance เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมความพอดีเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอ
- ในระบบประกอบ (Assembly Systems): ใช้ในเครื่องจักรที่ต้องประกอบหลายส่วน เช่น เครื่องจักรกลหรือชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถประกอบเข้าด้วยกันได้โดยไม่มีการติดขัดหรือหลวมเกินไป
- ในแม่พิมพ์และการตัดเฉือน (Molding and Machining): Tolerance ช่วยกำหนดความแม่นยำในการตัดเฉือนหรือการหล่อเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีขนาดถูกต้อง
- ในอุปกรณ์ไฮดรอลิกและนิวเมติก (Hydraulic and Pneumatic Equipment): การควบคุม tolerance สำคัญมากสำหรับระบบเหล่านี้ เพราะความคลาดเคลื่อนที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการรั่วไหลหรือความดันลดลง
Tolerances ในการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ความพอดี และประสิทธิภาพในการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ